ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง: ใครต้องเสีย? อัตราเท่าไหร่?
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เราจะมาพูดคุยกันเรื่อง ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นภาษีที่เกี่ยวข้องกับใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้าน ที่ดิน หรือคอนโดฯ บทความนี้จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับภาษีตัวนี้แบบเจาะลึก ตั้งแต่ความหมาย ใครบ้างที่ต้องเสียภาษี อัตราภาษีที่ต้องจ่าย ไปจนถึงวิธีการยื่นแบบและชำระภาษี รับรองว่าอ่านจบแล้ว จะเข้าใจเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมากขึ้นแน่นอนค่ะ
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คืออะไร?
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง นั้น ถือเป็นภาษีที่จัดเก็บจาก ที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้าง โดยมีวัตถุประสงค์หลักๆ เพื่อนำรายได้ที่จัดเก็บได้ ไปใช้ในการพัฒนา ปรับปรุง และบำรุงรักษาท้องถิ่น ให้มีความเจริญก้าวหน้า น่าอยู่ และเอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัยของประชาชน นอกจากนี้ ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมให้เจ้าของที่ดิน นำที่ดินของตนไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ปล่อยทิ้งร้างให้เสื่อมโทรม และเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดิน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทย ภาษีนี้จะจัดเก็บโดย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล อบต. เป็นต้น
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต่างจาก ภาษีโรงเรือนและที่ดิน อย่างไร? ต้องบอกว่าภาษีโรงเรือนและที่ดินนั้น ถูกยกเลิกไปแล้ว และถูกแทนที่ด้วยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ อัตราภาษี และวิธีการจัดเก็บใหม่ เพื่อให้มีความทันสมัยและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน
ใครบ้าง? ที่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
มาถึงคำถามสำคัญที่หลายคนอยากรู้ ใครกันนะที่ต้องเสียภาษีตัวนี้? คำตอบก็คือ ทั้ง บุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือทรัพย์สินอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับที่ดิน เช่น
บุคคลธรรมดา:
- เจ้าของบ้านพักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรืออาคารพาณิชย์ ที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
- เจ้าของที่ดินเปล่า ซึ่งหมายถึงที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ
- เจ้าของที่ดินเพื่อการเกษตร เช่น ที่นา สวนผลไม้ ไร่มันสำปะหลัง
- เจ้าของคอนโดมิเนียม ซึ่งรวมถึงห้องชุดในอาคารชุดต่างๆ
นิติบุคคล:
- บริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด
- ห้างหุ้นส่วน เช่น ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญ
- องค์กรต่างๆ เช่น มูลนิธิ สมาคม วัด โรงเรียน
อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะแตกต่างกันไปตามประเภทของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยมีรายละเอียดดังนี้
ที่อยู่อาศัย:
- บ้านหลังหลักที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ได้รับยกเว้นภาษีสำหรับที่ดินมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท
- หากมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท จะเสียภาษีในอัตรา 0.03% - 0.1% ขึ้นอยู่กับมูลค่าของที่ดิน โดยคิดจากมูลค่าส่วนที่เกิน 50 ล้านบาท
ที่ดินเกษตรกรรม:
- ได้รับยกเว้นภาษีสำหรับที่ดินมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท
- หากมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท จะเสียภาษีในอัตรา 0.01% - 0.15% ขึ้นอยู่กับมูลค่าของที่ดิน โดยคิดจากมูลค่าส่วนที่เกิน 50 ล้านบาท
ที่ดินรกร้างว่างเปล่า:
- มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เจ้าของนำที่ดินไปใช้ประโยชน์
- เสียภาษีในอัตรา 0.3% - 3% ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ปล่อยทิ้งร้าง และมูลค่าของที่ดิน โดยอัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุก 3 ปี หากยังคงปล่อยทิ้งร้าง
ที่ดินเพื่อการพาณิชย์:
- เช่น อาคารสำนักงาน ร้านค้า โรงแรม
- เสียภาษีในอัตรา 0.3% - 0.7% ขึ้นอยู่กับมูลค่าของที่ดิน
สิ่งปลูกสร้างอื่นๆ:
- เช่น โรงงาน โกดังสินค้า
- เสียภาษีในอัตรา 0.02% - 0.7% ขึ้นอยู่กับประเภทและมูลค่าของสิ่งปลูกสร้าง
ตัวอย่างการคำนวณภาษี
- กรณีที่ 1: คุณ A เป็นเจ้าของบ้านเดี่ยว มูลค่า 3 ล้านบาท อาศัยอยู่จริง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในกรณีนี้ คุณ A จะได้รับยกเว้นภาษี เนื่องจากมูลค่าบ้านไม่เกิน 50 ล้านบาท
- กรณีที่ 2: คุณ B เป็นเจ้าของที่ดินเปล่า มูลค่า 100 ล้านบาท และปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นเวลา 5 ปี คุณ B จะต้องเสียภาษีในอัตรา 0.7% ของมูลค่าที่ดิน ซึ่งเท่ากับ 700,000 บาท
- กรณีที่ 3: คุณ C เป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์ มูลค่า 50 ล้านบาท คุณ C จะต้องเสียภาษีในอัตรา 0.3% ของมูลค่าอาคาร ซึ่งเท่ากับ 150,000 บาท
ภาษีที่ดินว่างเปล่า
ที่ดินว่างเปล่า หมายถึง ที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง หรือมีสิ่งปลูกสร้างแต่ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ เช่น ปล่อยทิ้งร้าง ไม่ทำการเกษตร รัฐบาลมีนโยบายจัดเก็บ ภาษีที่ดินว่างเปล่า ในอัตราที่สูงกว่าที่ดินประเภทอื่นๆ เพื่อกระตุ้นให้เจ้าของที่ดินนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ ลดปัญหาการกักตุนที่ดิน และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ที่ดิน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม
อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นสำหรับที่ดินบางประเภท เช่น ที่ดินที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ที่ดินที่รอการขาย หรือที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้เก็บไว้เป็นที่ว่างเปล่า ซึ่งจะได้รับการยกเว้นภาษี ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างภาระแก่เจ้าของที่ดิน และส่งเสริมให้มีการพัฒนาที่ดินอย่างต่อเนื่อง
การยื่นแบบและชำระภาษี
เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีหน้าที่ต้อง ยื่นแบบแสดงรายการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และ ชำระภาษี ภายในเดือนเมษายนของทุกปี โดยสามารถยื่นแบบได้ 2 ช่องทาง คือ
- ยื่นแบบออนไลน์: ผ่านเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา
- ยื่นแบบ ณ สำนักงานเขต/เทศบาล: ที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ ซึ่งเป็นวิธีแบบดั้งเดิม ที่ยังคงได้รับความนิยม
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นแบบ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน หรือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน เป็นต้น ควรเตรียมเอกสารให้พร้อม ก่อนดำเนินการยื่นแบบ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
บทลงโทษกรณีไม่ชำระภาษี
หากไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี หรือไม่ชำระภาษีภายในกำหนดเวลา จะต้องเสีย เบี้ยปรับ และ เงินเพิ่ม ตามที่กฎหมายกำหนด โดยเบี้ยปรับจะคิดเป็น 2 เท่าของภาษีที่ต้องชำระ ส่วนเงินเพิ่มจะคิดเป็น 1.5% ต่อเดือน ของภาษีที่ค้างชำระ ในกรณีที่จงใจหลีกเลี่ยงการเสียภาษี อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุก และปรับ ดังนั้น ควรชำระภาษีให้ตรงเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ ที่อาจตามมา
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจเรื่อง ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มากขึ้นนะคะ อย่าลืมตรวจสอบสถานะการเสียภาษีของตัวเอง และยื่นแบบ/ชำระภาษีให้ถูกต้อง ครบถ้วน และตรงตามเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ ที่อาจตามมา